อายุเยอะแล้ว ทำรากฟันเทียมได้หรือไม่?

การสูญเสียฟันในผู้สูงอายุ มักเกิดจากสาเหตุความเสื่อมสภาพของอวัยวะภายในตามอายุขัย ประกอบกับประสิทธิภาพในการดูแลทำความสะอาดช่องปากลดลง จากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้สูงอายุจำนวนมากประสบปัญหาสุขภาพฟันและช่องปาก ฟันร่วงโรยตามกาลเวลา สูญเสียฟันจำนวนหลายซี่ หรืออาจสูญเสียฟันทั้งปาก ขาดความสามารถในการบดเคี้ยวอาหาร และทำให้เกิดปัญหาสุขภาพโดยรวมตามมา

ทางเลือกของการรักษาในเบื้องต้น ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักเลือกทำฟันปลอมแบบถอดได้ เพราะเป็นวิธีการใส่ฟันทดแทนที่ทำได้ง่าย สะดวก และสามารถใช้งานฟันปลอมได้ทันที แต่ก็มีผู้สูงอายุอีกหลายรายที่ประสบปัญหากับการใส่ฟันปลอม ใส่แล้วรู้สึกเจ็บ เคี้ยวอาหารไม่สะดวก รู้สึกคับแน่นไปทั้งปาก ฟันปลอมหลุดขณะพูดคุยบ่อยครั้ง สร้างความรำคาญในการใช้งาน ไม่อยากใส่ฟันปลอม ซึ่งปัญหาเหล่านี้ สามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัดใส่รากฟันเทียม

ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไป อยากจะทำรากฟันเทียม สามารถทำได้หรือไม่?

การทำรากฟันเทียมเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก โดยทันตแพทย์จะฝังรากฟันเทียมลงในกระดูกขากรรไกรของคนไข้ มีหลายคนเข้าใจว่าปัจจัยเรื่องของอายุที่มากขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อการผ่าตัดใส่รากฟันเทียม ซึ่งแท้จริงแล้วการทำรากฟันเทียมในผู้สูงวัย ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของอายุเลย จากสถิติการเข้ารับการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมโดยทันตแพทย์ทั่วโลก คนไข้ที่อายุมากที่สุด มีอายุสูงถึง 92 ปีเลยทีเดียว

ดังนั้นไม่ว่าคนไข้จะมีอายุมากแค่ไหน หากมีสุขภาพแข็งแรงดี และมีสุขภาวะในช่องปากที่เหมาะสม ก็สามารถทำรากฟันเทียมได้เช่นกัน การผ่าตัดใส่รากฟันเทียมจะช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น กลับมาใช้งานฟันเพื่อบดเคี้ยวได้อย่างเป็นปกติ ฟันและรอยยิ้มมีความสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมของผู้สูงอายุ ให้สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากกว่าที่เคยเป็นมา

ปัจจัยสุขภาพใดบ้างที่มีผลต่อการทำรากฟันเทียมในผู้สูงอายุ

ผู้สูงอายุหลายคนมีโรคประจำตัวที่อาจสร้างความกังวลในการผ่าตัดใส่รากฟันเทียม แต่ความจริงแล้วผู้ที่มีโรคประจำตัว ไม่ได้หมายความว่าจะทำรากฟันเทียมไม่ได้ ข้อแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับผู้สูงวัยที่ต้องการทำรากฟันเทียม ควรเตรียมประวัติสุขภาพส่วนตัวและแจ้งปัญหาด้านสุขภาพให้ทันตแพทย์ทราบ เพื่อการพิจารณาประเมินทางเลือกของการรักษาต่อไป

ปัจจัยด้านสุขภาพที่มีผลต่อการทำรากฟันเทียมในผู้สูงอายุ เช่น ผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวานชนิดรุนแรง ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ หรือ ผู้สูงอายุที่มีภาวะโรคกระดูกพรุนจากการใช้ยาบางชนิด รวมถึงคนไข้ที่สูบบุหรี่จัดแม้จะมีอายุมากแล้ว ปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีผลต่อความสำเร็จในการรักษาทำรากฟันเทียม และมีผลต่อการเชื่อมติดของรากฟันเทียมกับกระดูกและเนื้อเยื่อต่างๆ 

อย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุโดยส่วนใหญ่ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดไม่รุนแรง รวมถึงโรคประจำตัวอื่นๆ ที่พบได้บ่อยในผู้สูงวัย เช่น ความดัน, ไขมันสูง หรือ โรคหัวใจ สามารถทำรากฟันเทียมได้ตามปกติ ตราบใดที่สุขภาพโดยรวมยังแข็งแรงดี

ทำไม 'ทำรากฟันเทียม' จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้สูงวัย

การผ่าตัดใส่รากฟันเทียม เป็นทางเลือกที่ให้ประสิทธิภาพการใช้งานฟันที่ดีในระยะยาว สู่การมีสุขอนามัยในช่องปากที่ดี มีสุขภาพเหงือกที่แข็งแรง เนื่องจากผู้สูงอายุจะสามารถแปรงฟัน ดูแลทำความสะอาดภายในช่องปากได้เป็นปกติ

1. การผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ให้ความสวยงามของฟันเสมือนฟันจริง แลดูเป็นธรรมชาติ

   เมื่อฝังรากฟันเทียมในช่องปาก และใส่ครอบฟันจนเกิดความสวยงามสมบูรณ์แล้ว ผู้สูงอายุแทบจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างฟันจริงกับฟันปลอม สามารถใช้งานฟันบดเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ รับประทานอาหารได้หลากหลายมากขึ้น พูดจาฉะฉาน มีความมั่นใจ หมดกังวลเรื่องฟันปลอมหลุด หรือฟันปลอมหลวมขณะพูดคุย สามารถเข้าสังคมได้อย่างมีความสุขยิ่งขึ้น

2. รากฟันเทียมมีอายุยืนยาว สามารถอยู่ในช่องปากได้ตลอด

   ผู้สูงวัยที่แปรงฟันถูกวิธี ทำความสะอาดขอบเหงือก และใช้ไหมขัดฟันขจัดเศษอาหารอย่างเป็นประจำ สม่ำเสมอ รากฟันเทียมจะสามารถอยู่ภายในช่องปากไปได้ตลอด การทำรากฟันเทียมจึงเป็นทางเลือกของการใส่ฟันทดแทนที่มีความยั่งยืน แม้ผู้สูงอายุอาจต้องเปลี่ยนครอบฟันทุกๆ 10-15 ปี แต่รากฟันเทียมจะอยู่ยึดติดกับกระดูกขากรรไกรของคนไข้ไปได้ตลอดชีวิต การเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากกับทันตแพทย์เป็นประจำทุกๆ 6 เดือน จะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสที่รากฟันเทียมจะอยู่ได้นานมากขึ้นไปอีก

3. รากฟันเทียมช่วยป้องกันการสูญเสียกระดูกในช่องปาก

   การผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกระดูกขากรรไกรของผู้สูงอายุ เมื่อผู้สูงอายุสูญเสียฟัน กระดูกรอบๆ บริเวณฟันที่หายไปจะเริ่มสลายตัวลงเรื่อยๆ ทำให้เนื้อเยื่อและเหงือกยุบลงตาม การใส่รากฟันเทียมเข้าไปทดแทนช่องว่างของฟันที่หายไป จะทำหน้าที่เสมือนกับเป็นรากฟันธรรมชาติ ช่วยรักษากระดูกขากรรไกรของผู้สูงอายุให้ยังคงแข็งแรง และลดอัตราการละลายตัวของกระดูกได้

ความแตกต่างของการทำรากฟันเทียมในผู้สูงอายุ

วิธีฝังรากฟันเทียมสำหรับคนไข้ทั่วไปและผู้สูงอายุ อาจไม่ได้มีกระบวนการรักษาที่แตกต่างกันมากนัก เพียงแต่การทำรากฟันเทียมในผู้สูงอายุ ทันตแพทย์จะวางแผนการรักษาค่อนข้างรวบรัด เน้นกระบวนการรักษาที่ใช่ระยะเวลาสั้นลง รวมถึงการใช้รากฟันเทียมหรือใส่ฟันปลอมเฉพาะในส่วนที่จำเป็นจริงๆ เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์หลักของการรักษาคือ ผู้สูงอายุสามารถกลับมาบดเคี้ยวอาหารได้อย่างดี และเพียงพอต่อความต้องการ

นวัตกรรมรากฟันเทียมได้รับการพัฒนาอย่างไร้ขีดจำกัด ปัจจุบันมีเทคโนโลยีทางทันตกรรมมากมายที่เข้ามาช่วยเหลือในกระบวนการฝังรากฟันเทียมให้เกิดความปลอดภัย พร้อมการวางแผนการรักษาให้มีความแม่นยำสูงขึ้น ช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จของการทำรากฟันเทียมในผู้สูงอายุได้มากขึ้น เช่น การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ 3 มิติ หรือ CT Scan และเทคโนโลยี Digital CAD/CAM ที่ช่วยให้การรักษาทำรากฟันเทียมในผู้สูงอายุ สามารถทำสำเร็จได้ในวันเดียว

ผู้สูญเสียฟันที่มีอายุมาก ตลอดจนลูกหลานที่มีความห่วงใยด้านทันตสุขภาพของผู้สูงอายุในบ้าน อย่าลังเลที่จะเข้ามาขอคำปรึกษาจากทันตแพทย์ไม่ว่าท่านจะมีอายุเท่าไหร่ ร่วมหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา ใส่ฟันทดแทนให้เร็วที่สุด เพื่อให้ผู้สูงอายุกลับมารับประทานอาหารได้อย่างมีความสุข นำไปสู่การมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และสภาพมีจิตใจที่ดี อยู่สร้างความทรงจำดีๆ ร่วมกับลูกหลานและคนในครอบครัวได้อีกนาน

ยกระดับความปลอดภัยในการรักษาทำรากฟันเทียมให้แก่ผู้สูงวัย ด้วยเทคโนโลยีทางทันตกรรมที่ครบครันและทันสมัยที่สุด กับศูนย์รากฟันเทียมนครสวรรค์ Dental Image นครสวรรค์ คลินิกทันตกรรมในนครสวรรค์ ผู้ให้บริการทางทันตกรรมอย่างครบวงจร รักษาฟันและช่องปากทุกรูปแบบ ทำรากฟันเทียม ราคาจริงใจที่สุด บนมาตรฐานการให้บริการระดับสากล เข้ารับการรักษาทำรากฟันเทียมด้วยเทคโนโลยี CT Scan, Digital CAD/CAM และนวัตกรรมฝังรากฟันเทียมด้วย Implant Surgical Guides ภายใต้การดูแลจากทันตแพทย์สาขารากฟันเทียมโดยเฉพาะ 

คลินิกทันตกรรมเดนทัลอิมเมจ Dental Image นครสวรรค์ มุ่งมั่นให้บริการใส่รากฟันเทียม ราคาคนไทย เพื่อให้คนไทยทุกระดับเข้าถึงการรักษาทำรากฟันเทียม เพราะเราเชื่อว่าทุกคนล้วนต้องการการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีที่สุด