ฝังรากฟันเทียมแล้วหน้าช้ำ ระบมทั้งหน้า เป็นไปได้จริงหรือ?!

วงการทำรากฟันเทียมกำลังมีประเด็นร้อนในโซเชียลเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อนางแบบสาวชาวเท็กซัส ‘เจสสิกา แม็กโก’ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอภาพของตัวเองลงในสื่อโซเชียล ด้วยใบหน้าที่มีสีดำคล้ำไปทั่วทั้งหน้า สาเหตุเกิดจากการฟกช้ำอย่างรุนแรง โดยเธอกล่าวว่านี่เป็นผลจากการเข้ารับการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมแบบ All-on-4 ซึ่งเป็นรูปแบบการทำฟันปลอมชนิดติดแน่นที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับผู้สูญเสียฟันจำนวนหลายซี่ หรือผู้สูญเสียฟันทั้งปาก

เจสสิกา แม็กโก เล่าว่าเธอมีปัญหาฟันเสื่อมสภาพมาตลอดชีวิตตั้งแต่วัยรุ่น ทำให้ต้องถอนฟันแท้ออกจำนวนมาก โดยในวันเข้ารับการผ่าตัด ทันตแพทย์ได้ถอนฟันผุที่เหลือในช่องปากของเธอออก ก่อนจะใส่รากฟันเทียมจำนวน 14 ซี่ แล้วฝังรากฟันเทียมแบบ All-on-4

ทันตแพทย์ได้อธิบายแผนการรักษาอย่างละเอียด และแจ้งกับเจสสิกาว่า หลังผ่าตัดเธออาจพบอาการข้างเคียงได้ เช่น เลือดออก, ปวดแผล, เกิดอาการบวม หรือมีรอยฟกช้ำได้บ้าง แต่หลังจากผ่าตัดไม่กี่วัน เจสสิกาก็ต้องตกใจกับรอยช้ำสีคล้ำดำม่วงที่กระจายอยู่ทั่วใบหน้าของเธอ และลามไปถึงช่วงคอ มันน่ากลัวมากจนเธอต้องเข้าพบทันตแพทย์ผู้ทำการรักษาอีกครั้ง ด้วยความรู้สึกกังวล

หลังการผ่าตัด 2 สัปดาห์ อาการฟกช้ำบนใบหน้าของเจสสิกาบรรเทาลง ตอนนี้เธอแข็งแรงดีและให้ความเห็นว่า แม้ในขั้นตอนกระบวนการรักษาทำรากฟันเทียมเธอต้องทนทุกข์ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ ทำให้เธอไม่เสียใจเลยที่ตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ตอนนี้เธอสามารถกลับมาใช้งานฟันได้ตามปกติ กินอาหารได้ทุกอย่างที่อยากกิน และมีซี่ฟันที่สวยงาม ฟันดูเป็นธรรมชาติอย่างที่ต้องการมานาน

สาเหตุของรอยช้ำจากการทำรากฟันเทียม เกิดจากอะไรได้บ้าง?

อาการฟกช้ำ เกิดจากการแตกตัวของหลอดเลือดใต้ผิวหนัง เลือดจะไหลซึมออกมาบริเวณรอบๆ แต่จะเกิดใต้ผิวหนัง จึงทำให้ผิวหนังเกิดการเปลี่ยนสี ธรรมชาติของรอยช้ำจะมีการเปลี่ยนแปลงของสีตามช่วงเวลา เริ่มต้นจากสีแดงอ่อน เป็นสีแดงเข้มขึ้นเรื่อยๆ แล้วกลายเป็นสีดำคล้ำ จากนั้นจะค่อยๆ กลายเป็นสีม่วง สีฟ้า สีเขียว และสีเหลืองในระยะสุดท้ายที่ใกล้หายดีแล้ว จากนั้นจึงจะกลับมาเป็นสีผิวหนังปกติ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วรอยช้ำจะหายได้เองภายใน 7-10 วัน

การทำรากฟันเทียมแล้วเกิดรอยฟกช้ำบนใบหน้า สามารถเกิดขึ้นได้ แต่พบได้น้อยมาก ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านสุขภาพของคนไข้ สามารถป้องกันได้ด้วยฝีมือการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมที่ละเมียดละไมจากทันตแพทย์ผู้ทำการรักษา โดยรอยช้ำจากการทำรากฟันเทียม อาจเกิดขึ้นได้จากสาเหตุต่อไปนี้

1. แรงกระแทกจากการผ่าตัด ในกระบวนการทำรากฟันเทียม ทันตแพทย์จะต้องฝังรากฟันเทียมเข้ากับกระดูกขากรรไกรของคนไข้ ดังนั้นในขั้นตอนการฝังสกรูรากเทียมอาจเกิดการกระแทกที่ส่งผลกระทบต่อผิวหนังบริเวณข้างเคียงได้

2. ของมีคมที่ใช้ระหว่างผ่าตัด มีดผ่าตัด หรือแม้แต่เข็มฉีดยาเล็กๆ ที่ใช้ในการฉีดยาชาระหว่างการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ล้วนเป็นปัจจัยทำให้เกิดเลือดออกใต้ผิวหนัง นำไปสู่ภาวะฟกช้ำได้

3. การฉีกขาดของเนื้อเยื่อระหว่างการผ่าตัด ในกรณีที่คนไข้ปากเล็กมาก ทันตแพทย์อาจต้องทำการดึงช่องปากคนไข้หลายครั้งในระหว่างผ่าตัดฝังรากฟันเทียม การขยับซ้ำๆ หลายครั้งอาจทำให้เกิดการฉีกขาดของเนื้อเยื่อชั้นใน ทำให้เลือดออกใต้ผิวหนังได้

วิธีป้องกันผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ หลังการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ควรเตรียมตัวอย่างไรดี

แม้การผ่าตัดฝังรากฟันเทียมจะเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก แต่การตรวจสุขภาพร่างกายและสุขภาพช่องปากอย่างละเอียด ก่อนทำการผ่าตัด จะช่วยป้องกันโอกาสเกิดข้อผิดพลาดได้อย่างมาก นอกจากนี้คนไข้ควรแจ้งประวัติสุขภาพ และการรับประทานยาในชีวิตประจำวันของตัวเองให้ทันตแพทย์รับทราบ ทันตแพทย์อาจแนะนำให้หยุดยาบางประเภทก่อนทำการผ่าตัด และหากคนไข้มีความเสี่ยงเกิดรอยช้ำได้ง่าย ทันตแพทย์จะแจ้งอาการข้างเคียงหลังผ่าตัดให้ทราบ เพื่อไม่ให้คนไข้เกิดความตื่นตกใจหลังการผ่าตัด

ในบางกรณีทันตแพทย์อาจแนะนำให้รับประทานอาหารก่อนการผ่าตัด เพื่อป้องกันการอดอาหารหลังการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัว ก่อนวันผ่าตัดคนไข้ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และจัดสรรเวลาพักฟื้นให้ดี สำหรับคนไข้ที่สูบบุหรี่ ควรหยุดสูบบุหรี่ก่อนเข้าทำการรักษาฝังรากฟันเทียม เพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จในการผ่าตัด ปรับปรุงสุขภาพเหงือกให้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

ข้อควรปฏิบัติหลังการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม

1. หลังผ่าตัดทันที คนไข้ต้องกัดผ้าก๊อซให้แน่นต่อเนื่อง ประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อทำการหยุดเลือด หากมีเลือดไหลในปาก หรือมีน้ำลายเอ่อในปาก ให้กลืนเท่านั้น ห้ามอม ห้ามบ้วนออก และหลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง หากยังมีเลือดออกอยู่ ให้กัดผ้าก๊อซนานเพิ่มอีก 1 ชั่วโมง
2. ใน 48 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด คนไข้ต้องทำการประคบเย็น โดยใช้น้ำแข็งพันผ้าสะอาด ประคบบริเวณด้านนอกช่องปาก ห้ามอมน้ำแข็งในปาก ความเย็นจะช่วยลดการซึมไหลของเลือดได้เร็วขึ้น และช่วยลดอาการบวม
3. หลังการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม 2 วัน ให้คนไข้เปลี่ยนมาประคบอุ่น เพื่อช่วยในการไหลเวียนของเลือด กระตุ้นการกำจัดของเสียบริเวณที่เกิดรอยฟกช้ำ จะทำให้รอยช้ำหายเร็วขึ้น
4. รับประทานยาให้ตรงตามเวลา และตรงตามขนาดยาที่ทันตแพทย์สั่ง งดดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด งดอาหารร้อนจัด และปฏิบัติตามคำแนะนำอื่นๆ ของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด
5. กลับเข้าพบทันตแพทย์ตามวันและเวลานัดหมาย หากมีอาการแพ้จากการใช้ยา หรือเกิดอาการข้างเคียงที่ผิดปกติในระหว่างพักฟื้น คนไข้ควรรีบกลับมาพบทันตแพทย์ทันที

การทำรากฟันเทียมไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ปัจจุบันมีหลากหลายกลวิธีช่วยลดความเสี่ยงในการฝังรากฟันเทียม โดยเฉพาะนวัตกรรมเทคโนโลยีทางทันตกรรมในยุคนี้ ทำให้การรักษาทำรากฟันเทียมมีความปลอดภัยสูงขึ้นมาก กระบวนการฟกช้ำที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัด ก็สามารถหายได้เองในเวลาต่อมา คนไข้ที่อยากทำรากฟันเทียมแต่ยังมีความกังวล สามารถเข้ารับคำแนะนำปรึกษาเกี่ยวกับการใส่รากฟันเทียมกับทีมทันตแพทย์จาก Dental Image นครสวรรค์ คลินิกทำฟันนครสวรรค์ที่ให้บริการทำรากฟันเทียมอย่างเต็มรูปแบบ ทันตแพทย์ทุกท่านยินดีให้คำปรึกษาคนไข้ ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย

คลินิกทันตกรรมเดนทัลอิมเมจ (Dental Image Clinic) ศูนย์ทันตกรรมและศูนย์ศึกษาวิจัยทางคลินิกด้านรากฟันเทียม เปิดโอกาสให้คนไทยเข้าถึงบริการทำรากฟันเทียม ราคาคนไทย กับทีมทันตแพทย์ที่มีความชำนาญด้านรากฟันเทียมโดยเฉพาะ วางแผนการรักษาเฉพาะบุคคลทุกเคส เพื่อเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคนมากที่สุด ทันตแพทย์มีความละเมียดละไมในทุกขั้นตอนการรักษา มีการควบคุมอุณหภูมิขณะผ่าตัด ใช้น้ำเกลือแช่เย็นเพื่อช่วยในการลดการไหลออกของเลือด ดูแลแม้ในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้คนไข้คลายทุกข์ความกังวลใจ พึงพอใจในผลลัพธ์ของการรักษา เปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตของคนไข้ให้ดีขึ้นได้อย่างแท้จริง

คลินิกทำฟันนครสวรรค์ Dental Image นครสวรรค์ ครบทุกมิติการดูแลทางทันตกรรม บริการระดับมาตรฐานสากล ในความดูแลของอาจารย์ทันตแพทย์