รากฟันเทียมทำจากไทเทเนียมสุดแข็งแกร่ง สามารถพังได้จริงหรือ?

รากฟันเทียมส่วนใหญ่ทำมาจากไทเทเนียม ในปัจจุบันเรายังพบรากฟันเทียมที่ทำมาจากเซรามิก และเซอร์โคเนีย ซึ่งวัสดุเหล่านี้ล้วนเข้ากันได้ดีกับชีววิทยาของร่างกายมนุษย์ มีความแข็งแรงทนทาน คงทนต่อแรงกด สามารถใช้งานรากฟันเทียมได้อย่างยาวนานภายในช่องปาก โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพระยะยาว

แม้วัสดุรากฟันเทียมจะไม่ก่อให้เกิดอาการผุเหมือนที่พบในฟันจริง แต่การใช้งานและการดูแลรักษาทำความสะอาดรากฟันเทียมนั้น ก็คล้ายกับฟันธรรมชาติแทบไม่ต่างกัน ดังนั้นปัจจัยต่างๆ ที่เป็นสาเหตุทำให้คนไข้ต้องสูญเสียฟันแท้ ก็สามารถเกิดขึ้นกับรากฟันเทียมได้เช่นเดียวกัน

สาเหตุที่ทำให้รากฟันเทียมหลุด

จุดประสงค์ของการทำรากฟันเทียม คนไข้ทุกคนย่อมต้องการให้รากฟันเทียมอยู่ภายในช่องปาก และใช้งานได้ดีไปตลอดชีวิต ซึ่งแท้จริงแล้วก็มีคนไข้หลายรายที่สามารถรักษารากฟันเทียมไปได้ตลอด แต่ก็ยังมีคนไข้อีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่สามารถรักษารากฟันเทียมเอาไว้ได้ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้รากฟันเทียมหลุด หรือพังเสียหาย เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยดังต่อไปนี้

1. เนื้อเยื่อรอบรากฟันเทียมเกิดการอักเสบ หรือติดเชื้อ

   รากฟันเทียมที่ฝังสำเร็จอยู่ในช่องปากของคนไข้ จะถูกล้อมรอบด้วยกระดูกขากรรไกร และมีเนื้อเยื่ออ่อนของเหงือกปกคลุมทับซ้อนอีกชั้น เมื่อเหงือกเกิดการอักเสบ กระดูกที่อยู่บริเวณโดยรอบจะละลายตัวลงเรื่อยๆ ทำให้รากฟันเทียมที่ฝังอยู่สูญเสียความมั่นคงในการยึดเกาะติดกับกระดูก เหลือเพียงเนื้อเยื่อที่มีลักษณะคล้ายกับพังผืดยึดโยงอยู่เพียงเท่านั้น จึงเป็นสาเหตุทำให้รากฟันเทียมขยับ มีโอกาสโยกคลอน และหลุดออกมาได้

   สาเหตุหลักๆ ของอาการเหงือกอักเสบ มักเกิดขึ้นจากการที่คนไข้ไม่สามารถรักษาความสะอาดบริเวณรอบรากฟันเทียมได้อย่างเหมาะสม ทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ มีการสะสมของเชื้อแบคทีเรียจากเศษอาหารอยู่ภายในช่องปากมาก มีกลิ่นเหม็น เกิดเป็นคราบพลัค คราบหินปูน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เหงือกเกิดการอักเสบ เหงือกมีเลือดออก มีหนอง กระดูกรอบฟันละลาย และดำเนินไปสู่โรคปริทันต์อักเสบ ที่เป็นสาเหตุทำให้รากฟันเทียมโยกหลุดออกมา

   คนไข้ที่ทำรากฟันเทียมส่วนใหญ่ จะเข้าพบทันตแพทย์ก็ต่อเมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้ว เช่น รู้สึกได้ถึงการขยับของฟัน หรือรากฟันเทียมมีการโยกคลอน ซึ่งนั่นก็หมายความว่ากระดูกที่รองรับรากฟันเทียมถูกทำลายไปหมดแล้ว วิธีการรักษาทันตแพทย์จะต้องทำการถอนรากฟันเทียมออกมาก่อน เริ่มต้นวางแผนการรักษาปลูกถ่ายกระดูกเสริม และฝังรากฟันเทียมใหม่อีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าคนไข้จะต้องมีทั้งค่าเสียเวลา และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว

2. ชิ้นส่วนรากฟันเทียมแตกหักจากการใช้งาน

   แม้รากฟันเทียมจะทำจากวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทาน แต่หากได้รับแรงกดที่มากเกินปกติ ก็สามารถทำให้รากฟันเทียมเกิดการแตกร้าวได้เช่นกัน เช่น แรงบดเคี้ยวจากของแข็ง, ผู้ที่นอนกัดฟันเป็นประจำ หรือจากอุบัติเหตุต่างๆ เมื่อชิ้นส่วนรากฟันเทียมเกิดการแตกหัก โดยส่วนใหญ่คนไข้จะรู้สึกตัวได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เนื่องจากพบความผิดปกติในบริเวณครอบฟันก่อน เช่น ครอบฟันบิ่น แตก หัก ใช้ลิ้นสัมผัสแล้วรู้สึกได้ถึงปลายแหลมตรงที่ครอบฟัน หรือรู้สึกฟันเริ่มโยกง่ายขึ้น หลังประสบอุบัติเหตุจากแรงกระแทก

   ในอีกกรณีที่คนไข้อาจไม่รู้ตัว หากรากฟันเทียมเกิดการแตกร้าวจากภายใน ซึ่งจะทำให้เนื้อเยื่อบริเวณที่เกิดรอยร้าว มีการอักเสบติดเชื้อในเวลาต่อมาได้ คนไข้อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยที่เหงือก มีหนองออก ควรรีบเข้าพบทันตแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อช่วยป้องกันการดำเนินไปสู่โรคเหงือกอักเสบ ซึ่งจะทำให้การรักษาทำรากฟันเทียมใหม่มีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น

วิธีป้องกันและรักษารากฟันเทียมที่ดีที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นรากฟันเทียม หรือฟันธรรมชาติ ต่างก็ต้องการการดูแลรักษาความสะอาดที่ถูกต้อง เหมาะสม ผู้ทำรากฟันเทียมควรเข้าพบทันตแพทย์ตามนัดหมายทุกๆ 6 เดือน หรือ 1 ปี อย่างเคร่งครัด แม้ว่าคนไข้จะยังมีสุขภาพช่องปากที่ดีอยู่ หรือยังไม่เกิดปัญหาใดๆ ก็ตาม ทันตแพทย์จะทำการตรวจสภาพภายนอก ดูสัญญาณบ่งชี้ต่างๆ ที่อาจแสดงถึงการอักเสบของเหงือก และการสะสมของคราบหินปูน รวมถึงการทำเอกซเรย์ติดตามการคงตัวของรากฟันเทียมเป็นระยะๆ ในทุกๆ 1 ปี เพื่อตรวจสอบความเสียหายของโครงสร้างรากฟันเทียมภายในอยู่เป็นประจำ หากเจอปัญหาทันตแพทย์ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ซึ่งจะทำให้ขั้นตอนการรักษาง่ายขึ้น คนไข้อาจมีค่าใช้จ่ายที่น้อยลงกว่าการปล่อยให้ปัญหาลุกลาม ต้องรักษาด้วยวิธีที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น

การเข้าพบทันตแพทย์ผู้ทำการรักษารากฟันเทียมตามนัดหมายทุกครั้ง ถือเป็นวิธีป้องกันปัญหาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เพิ่มโอกาสของการรักษารากฟันเทียมให้อยู่กับคนไข้ได้นานที่สุด และลดความเสี่ยงของการสูญเสียรากฟันเทียมจากปัจจัยต่างๆ ได้

แม้รากฟันเทียมจะแข็งแกร่ง และมีประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุดในทันตกรรมในการทำฟันปลอม แต่สิ่งสำคัญที่เราไม่สามารถละเลยได้เลย ก็คือการดูแลสุขภาพเหงือกให้ดีอยู่เสมอ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นรากฐานของการยึดอยู่ของรากฟันเทียม คนไข้ที่มีการดูแลรักษาและใช้งานรากฟันเทียมอย่างถูกวิธี รากฟันเทียมจะอยู่ภายในช่องปากไปได้ตลอด

การทำรากฟันเทียมมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการใส่ฟันทดแทนทุกประเภท ดังนั้นเพื่อการใช้งานรากฟันเทียมให้ยาวนานและคุ้มค่าที่สุด ก็ต้องมาพร้อมกับการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากให้ดีอยู่เสมอ หมั่นแปรงฟันอย่างถูกวิธีเป็นประจำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหลังรับประทานอาหาร ใช้ไหมขัดฟันเอาเศษอาหารที่ติดตามซอกฟันออก พยายามอย่าให้มีเศษอาหารหลงเหลือติดซอกฟันบ่อยๆ

หากคนไข้ต้องการคำแนะนำในการดูแลรักษารากฟันเทียมอย่างละเอียด หรือมีข้อกังวลเกี่ยวกับการฝังรากฟันเทียม สนใจทำรากฟันเทียม ราคาเท่าไหร่ สามารถเข้ามาสอบถามขอคำปรึกษาจากทันตแพทย์คลินิกทันตกรรมเดนทัลอิมเมจ Dental Image นครสวรรค์ คลินิกทันตกรรมในนครสวรรค์ผู้ให้บริการทางทันตกรรมรากฟันเทียมอย่างเต็มรูปแบบ ครบวงจรทุกทันตกรรม มีทันตแพทย์เฉพาะทางสาขารากฟันเทียมคอยให้คำปรึกษาแก่คนไข้ฟรี โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

ศูนย์รากฟันเทียมนครสวรรค์ คลินิกทันตกรรมเดนทัลอิมเมจ Dental Image นครสวรรค์ พร้อมบริการดูแลสุขภาพช่องปากของคนไข้ทุกเคสด้วยความใส่ใจ เลือกใช้เทคโนโลยีทางทันตกรรมสุดล้ำสมัย ยกระดับความปลอดภัยในการรักษา