การป้องกัน และรักษาการติดเชื้อรากฟันเทียม

การปฏิบัติตัวหลังฝังรากฟันเทียมที่ถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงอาการรากฟันเทียมติดเชื้อ

รากฟันเทียมติดเชื้อได้อย่างไร

การทำรากฟันเทียมเป็นวิธีใส่ฟันทดแทนที่ให้ผลลัพธ์ดี และมีความปลอดภัยสูง แต่การดูแลหลังทำรากฟันเทียมที่ไม่ถูกต้อง อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดปัญหา 'รากฟันเทียมอักเสบ' ขึ้นได้ โดยการอักเสบของรากฟันเทียมเกิดจากการติดเชื้อบริเวณเหงือกรอบๆ รากฟันเทียม ซึ่งพบได้บ่อยในช่วง 1-3 เดือนแรก หลังการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม

เมื่อรู้สึกปวดบริเวณรากฟันเทียม จะมีอาการเจ็บปวดน้อยกว่าฟันจริง อาจพบว่าเหงือกรอบๆ ฟันเทียมมีอาการบวมแดง มีหนองสีขาวหรือหนองสีเหลืองไหลออกมา เป็นจุดสังเกตได้ว่ารากฟันเทียมเกิดการติดเชื้อขึ้นแล้ว เมื่อรากฟันเทียมติดเชื้อก็อาจส่งผลต่อการยึดอยู่ของรากฟันเทียมกับกระดูกขากรรไกร ซึ่งจะทำให้รากฟันเทียมโยกและหลุดออกมาได้

ข้อควรปฏิบัติหลังผ่าตัดฝังรากฟันเทียม เพื่อป้องกันแผลติดเชื้อระหว่างการรักษา

ใครที่เคยมีประสบการณ์ผ่าฟันคุดมาแล้ว การดูแลรักษาแผลผ่าตัดทำรากฟันเทียม มีวิธีการดูแลที่เหมือนกันกับการผ่าฟันคุด แต่แผลผ่าตัดฝังรากฟันเทียมส่วนใหญ่ทันตแพทย์จะเย็บติดอย่างสนิท ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษามากขึ้น คำแนะนำในการปฏิบัติตัวหลังฝังรากฟันเทียมที่ถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงแผลติดเชื้อ มีดังต่อไปนี้

  1. หลังผ่าตัดฝังรากฟันเทียม คนไข้ต้องกัดผ้าก๊อซให้แน่นเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
    การกัดผ้าก๊อซให้แน่นเป็นการห้ามเลือดเบื้องต้น คนไข้ควรกัดผ้าก๊อซให้แน่นตลอดเวลา และอยู่นิ่งในตำแหน่งที่ทันตแพทย์วางไว้ให้ ในระหว่างกัดผ้าก๊อซหากรู้สึกว่ามีเลือดไหลหรือน้ำลายไหล ต้องกลืนลงคออย่างเดียวเท่านั้น ห้ามบ้วนเลือด และห้ามบ้วนน้ำลายออก เพราะจะยิ่งทำให้เลือดไหลไม่หยุด

    เมื่อผ่านไป 1 ชั่วโมงแล้ว ยังรู้สึกว่ามีเลือดไหลอยู่ สามารถเปลี่ยนผ้าก๊อซอันใหม่ และกัดผ้าก๊อซอย่างต่อเนื่องจนกว่าเลือดจะหยุดไหล แต่หากผ่านไปเป็นระยะเวลานานแล้ว และเลือดยังไหลมากไม่หยุด คนไข้ควรรีบกลับไปพบทันตแพทย์ เพื่อหยุดการสูญเสียเลือดโดยด่วน

  2. หมั่นประคบน้ำแข็งในช่วง 1-2 วันแรก หลังผ่าตัดฝังรากฟันเทียม
    หลังผ่าตัดฝังรากฟันเทียมใหม่ๆ เป็นปกติที่จะมีอาการปวดบวม แนะนำให้ใช้น้ำแข็งประคบบริเวณนอกช่องปาก แก้มล่างข้างที่ทำรากฟันเทียม โดยใช้เวลาประคบนาน 15 นาที และพักนาน 15 นาที จึงประคบใหม่อีกครั้งหากยังรู้สึกปวด ไม่ควรประคบเย็นนานจนเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองได้

  3. ทานยาตามทันตแพทย์สั่งจ่ายอย่างเคร่งครัด
    การผ่าตัดฝังรากฟันเทียม โดยส่วนใหญ่ทันตแพทย์จะสั่งจ่ายยาแก้ปวดและยาฆ่าเชื้อ หากคนไข้มีอาการแพ้ยาบางประเภทควรรีบแจ้งให้ทราบก่อนรับยา สำหรับยาฆ่าเชื้อคนไข้ต้องทานให้เป็นเวลาอย่างต่อเนื่องจนกว่ายาจะหมด แม้จะไม่มีอาการปวด บวม หรืออักเสบอีกแล้ว คนไข้ก็ต้องทานให้ครบจำนวนตามแพทย์สั่งจ่าย ห้ามหยุดยาเอง

  4. เลือกรับประทานอาหารที่มีความอ่อนนิ่ม งดอาหารรสจัด
    ระยะแรกหลังผ่าตัดฝังรากฟันเทียมควรเลือกทานอาหารอ่อนๆ เช่น โจ๊ก, ข้าวต้ม, แกงจืด งดทานอาหารรสจัด หรืออาหารที่มีความร้อนจัด ซึ่งจะทำให้แผลเกิดการระคายเคืองขึ้นได้ รวมถึงหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารข้างที่เพิ่งฝังรากฟันเทียมมา โดยเลี่ยงไปเคี้ยวอีกข้างหนึ่งแทน เพื่อเป็นการทะนุถนอมแผล

  5. แปรงฟันอย่างระมัดระวัง
    คนไข้สามารถแปรงฟันได้ตามปกติ แต่ในตำแหน่งที่เป็นแผลฝังรากฟันเทียมควรแปรงอย่างเบามือที่สุด งดใช้น้ำเกลือบ้วนปาก และ น้ำยาบ้วนปากชนิดอื่น ยกเว้น น้ำยา บ้วนปาก (c-20) ที่ คุณหมอสั่งจ่ายให้เท่านั้น

  6. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแผลโดยตรง
    แผลผ่าตัดฝังรากฟันเทียม 7 วันแรก จะมีร่องรอยของการเย็บไหมอยู่ด้านบนแผล ซึ่งหลายครั้งคนไข้มักเผลอใช้ลิ้นเขี่ยเล่น หรือใช้นิ้วมือสัมผัสกับแผลเมื่อรู้สึกคัน ห้ามสัมผัสกับแผลรากฟันเทียมโดยตรง เพราะอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดการติดเชื้อตามมา

  7. งดสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์ และงดออกกำลังกาย
    ก่อนทำการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ทันตแพทย์จะมีกำหนดให้คนไข้งดสูบบุหรี่เป็นเวลา 2 สัปดาห์ และหลังจากผ่าตัดฝังรากฟันเทียมแล้ว ก็ต้องงดสูบบุหรี่ไปอีก 2 สัปดาห์ รวมถึงงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด แม้จะมีระดับแอลกอฮอล์ต่ำก็ตาม เพราะอาจไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้น

    สำหรับสายรักสุขภาพ ผู้ที่ชื่นชอบออกกำลังกาย ควรงดการออกกำลังกายหนักหลังการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมเป็นระยะเวลา 3-5 วัน เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุกระแทกที่บริเวณช่องปาก ซึ่งอาจทำให้รากฟันเทียมเกิดความเสียหายหรือหลุดออกมาได้

การดูแลรากฟันเทียมหลังผ่าตัดอย่างถูกต้อง และปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด เป็นวิธีป้องกันการเกิดรากฟันเทียมอักเสบที่ดีที่สุด หลังการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมแล้วคนไข้พบความผิดปกติต่างๆ โดยเฉพาะเมื่อกลืนน้ำลายแล้วรู้สึกปวดมาก ควรรีบพบทันตแพทย์โดยด่วน เพื่อให้ทันตแพทย์ทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที

อาการรากฟันเทียมอักเสบ หรือรากฟันเทียมติดเชื้อ ยิ่งรักษาได้รวดเร็วเท่าไร ก็ยิ่งให้ผลลัพธ์ของการรักษาที่ดีมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นอย่าปล่อยให้รากฟันเทียมอักเสบเป็นระยะเวลานานโดยเด็ดขาด เพราะหากไม่รีบรับการรักษาอาจต้องผ่าตัดเอารากฟันเทียมออก และทำการฝังรากเทียมใหม่

หากคุณเป็นหนึ่งในผู้สูญเสียฟันจริงที่อยากกลับมายิ้มได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง กำลังมองหาคลินิกรักษารากฟัน ที่ไหนดี คลินิกทำฟันนครสวรรค์ Dental Image นครสวรรค์ บริการทันตกรรมรักษารากฟันเทียม ราคาย่อมเยา ให้คนไทยทุกคนเข้าถึงบริการทำรากฟันเทียม Straumann ราคาพิเศษที่สุด กับคลินิกทันตกรรมเดนทัลอิมเมจ ผู้นำด้านทันตกรรม รักษารากฟันเทียม ฟันปลอม และทันตกรรมทุกรูปแบบ มุ่งมั่นอยากให้คนไทยเข้าถึงเทคโนโลยีการทำรากฟันเทียมได้อย่างทั่วถึง ราคารากฟันเทียมเพื่อคนไทย ภายใต้มาตรฐานการบริการที่ดีที่สุด Dental Image Clinic นำทีมโดยคุณหมอตี้ ทันตแพทย์อานนท์ อรุณเมือง ภูมิใจกับการสร้างรอยยิ้มให้กับคนไทยมานานกว่า 17 ปี พบกับคลินิกทันตกรรมเดนทัลอิมเมจ (Dental Image Clinic) ทุกสาขาทั่วประเทศ

 


 

สนใจรักษารากฟันเทียม คลินิกทันตกรรม Dental Image นครสวรรค์ ติดต่อได้ที่

โทร : 056-311955, 061-6840468, 061-7989821

  

  

Visitors: 101,216